อุปกรณ์ที่ต้องใช้
1.เครื่องชั่ง (เครื่องแบบอนาล็อกและแบบดิจิตอล แต่ ส่วนตัวผมใช้ ดิจิตอล นะมันสะดวกดี)
2.เครื่องปั่น
3.หม้อ (ส่วนผมใช้หม้อก้นหนา มันจะไหม้ยากหน่อย)
4.เหยื่อก (1500ml)
5.ช้อนตวง
6.กระบวย
7.กระชอน (ตาห่างๆหน่อยนะ)
8.ขวดนม (ผมใช้ 5 ขวด ขนาด 250ml)
9.กะละมัง (เอาใช้แช่ ให้อาหารเย็น)
อุปกรณที่ใช้ทางสายยาง
1.สำลี
2.น้ำเกลือ
3.ไซริ้งฉีดยาขนาด 50ml (ต้องเป็นแก้วนะพลาสติกมันจะละลายได้)
4.ถุงอาหาร
5.ที่อุ่นอาหารเหลว
6.ที่แขวนอาหาร
7.ตะขอรูปตัว S
ส่วนอันสุดนี้ผมคิดเอง ไม่เสียตังเยอะ 4 ถุงบาท เอาไปใช้ได้นะครับทำจากถุงร้อน จะบอกวิธีทำให้ในบทความอุปกรณ์
การจัดท่าฟีดอาหาร
อาหารของผู้ทางสายมี 3 แบบ 1.สูตรนม 2.สูตรปั่นผสม 3.สูตรสำเร็จ มีดังนี้
สูตรที่ 1 สูตรน้ำนม (Milk base formular)
สูตรนี้ทางโรงพยาบาล จะใช้น้ำนมและผลิตภัณฑ์จากนมเป็นส่วนประกอบสำคัญ และอาจจะมีวัตถุดิบอย่างอื่นเพิ่ม เพื่อให้ได้พลังงานและสารอาหารที่เพียงพอ เช่น ครีม ซูโครส น้ำผลไม้ น้ำมันพืช เด็กซ์ตริน เป็นต้น
ปั่นผสมปริมาตรน้ำอุ่นต้มสุกให้ได้ 1,000 CC
ซูโครส 60
น้ำมันถั่วเหลือง 25
น้ำมันถั่วเหลือง 28
สูตรปั่นผสม (สูตรโรคไตเรื้อรัง) โปรตีนต่ำ การกระจายของพลังงาน
CHO : Protein : Fat = 55 : 10 : 35
สูตรปั่นผสม สูตรใช้เครื่องช่วยหายใจ การกระจายของพลังงาน CHO : Protein :
Fat = 45 : 20 : 35
เนื้อปลา 150
น้ำมันรำข้าว 35
สูตรปั่นผสม สูตรโปรตีนสูง ใช้กับผู้ป่วยที่ต้องการโปรตีนและพลังงานสูง การกระจาย
ของพลังงาน CHO : Protein : Fat = 50 : 20 : 30
กล้วยน้ำว้า 100
3. สูตรสำเร็จ (Commercial formular) ผลิตโดยบริษัทอุตสาหกรรมผลิตอาหารทางการแพทย์ มีคุณค่าและสารอาหารแตกต่างกัน แพทย์สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมกับสภาวะโรค รายละเอียดของสารอาหารของสารอาหารระบุไว้ที่บรรจุภัณฑ์ของอาหาร มีทั้งชนิดที่เป็นผงและเป็นของเหลว และนอกจากจะนำมาใช้ให้ทางสายให้อาหารแล้ว ยังสามารถรับประทานทางปากได้ด้วย
3.1 เบลนเดอร่า - เอ็มเอฟ (Blenaera - mf) เป็นอาหารทางการแพทย์ใช้เป็นอาหารเสริมทางโภชนาการ สำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะทุพโภชนาการ ใช้ตามคำแนะนำของแพทย์
3.2 เจ็น - ดีเอ็ม (Gen-DM) เหมาะสำหรับผู้ป่วย เป็นอาหารทางการแพทย์ เหมาะสำหรับบุคคลปกติ ผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ผู้ที่ต้องการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ผู้ป่วยที่ต้องการให้อาหารทางสายให้อาหาร ใช้ตามคำแนะนำของแพทย์
การกระจายของพลังงาน CHO : Protein : Fat = 55 : 15 : 30
3.3 นีโอ-มูน (Neo - mune) เหมาะสำหรับผู้ป่วย เป็นอาหารทางการแพทย์ เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการโปรตีนและพลังงานสูง เช่น ผู้ป่วยที่มีภาวะทุพโภชนาการ ผู้ป่วยที่ต้องการอาหารเพิ่มขึ้น ภายหลังการผ่าตัด หรืออุบัติเหตุ มะเร็ง แผลไฟลวก ภาวะการณ์ติดเชื้อในเลือด ใช้ตามคำแนะนำของแพทย์
การกระจายของพลังงาน CHO : Protein : Fat = 50 : 25 : 25
3.4 อะมิโนเลแบน – ออราล (Aminoleban - Oral) เหมาะสมกับผู้ป่วย เป็นอาหารทางการแพทย์ เหมาะสำหรับเสริมปริมาณสารอาหารในผู้ป่วยที่มีการทำงานของตับเสื่อมสมรรถภาพ ใช้ตามคำแนะนำของแพทย์
3.5 เปปตาเมน (Peptamen) เหมาะสมกับผู้ป่วยเป็นอาหารทางการแพทย์
เหมาะสำหรับผู้ป่วยวิกฤติ ผู้ป่วยที่มีปัญหาระบบทางเดินอาหาร
ทั้งการย่อยและการดูดซึมอาหาร จากโรคและการผ่าตัด ผู้ป่วย มะเร็ง AIDS/HIV ใช้ตามคำแนะนำของแพทย์
การกระจายของพลังงาน CHO : Protein : Fat = 50 : 16 : 34
3.6 มา-บีดี (Ma - beedee) เหมาะสมกับผู้ป่วย เป็นอาหารทางสายยาง เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่สามารถกินได้ตามปกติ หรือผู้ที่กินอาหารได้ไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
การกระจายของพลังงาน CHO : Protein : Fat = 52 : 16 : 32
3.7 กลูเซอน่า เอสอาร์(Glucerna SR) เป็นอาหารทางการแพทย์ อาหารทดแทนหรืออาหารระหว่างมื้อสูตรครบถ้วนผสมใยอาหาร ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวาน
การกระจายของพลังงาน CHO : Protein : Fat = 43 : 20 : 37
(สูตรในนี้ส่วนใหญ่มาจาก เว็ป http://oonsanit.blogspot.com/ ต้องขอขอบคุณนะที่นี้ด้วยนะครับ)
เกล็ดความรู้นะครับ
1.เวลาเตรียมอาหารเหลวสำหรับผู้ป๋วยควร เตรียมตามอาการของผู้ป๋วย เช่น โรคผิวหนัง คัน ผื่นขึ้น ก็ให้ใช้เช่น มะระ ผักกาดขาว ถั่วเขียว ตัวร้อน แตงกวา ต้นหอม เป็นต้น ให้คนป๋วยกินของตามอาการ มันจะดีที่สุด (ผมจะมาเขียนให้อีกที่ว่าอาการแบบไหนกินอาหารอะไร)
2.เตรียมอาหาร ควรเตรียมไว้เลย ซัก 2-3 วัน ประมาณ เราหั่นเนื้อใช้ถุงตามที่กำหนดไว้ แล้วแช่แข็ง ผักเราก็ชั่งใส่ถุงหรือกล่อง ตามทีกำหนด ไข่ขาว ถั่ว เกลือ น้ำตาล ผลไม้ เราใส่ถุงเดียวกันไว้เลย แล้วแช่ไว้ จะได้ไม่ต้องเตรียมของบ่อยๆ สะดวกในการใช้ ตอนกลางคืนเราก็เอาออกมาละลายไว้ ตอนเช้าเราก็ทำเลย
3.วัตถุดิบส่วนใหญ่เราไม่ต้องใช้ของดีมาก หรือจำเป็นต้องสด ไม่ใช้นะครับ เวลาเลือกซื้อของพอใช้มาทำก็ได้ เช่นผลไม้ ในโลตัส ที่ลดราคา เนื้อราคา เราซื้อมาหั่นเก็บไว้ได้ เวลาผมซื้อมา ผมซื้อเนื้อมาเก็บประมาณ 2 อาทิตย์ ซื้อครั้งนึง แล้วชั่งแพดไว้เป็นถุงๆ แช่แข็งไว้
4.ความข้นและเหลวของอาหาร เราต้องดูว่าท้องผู้ป๋วยย่อยอาหารดีไม ท้องย่อยไม่ดีให้ทำเหลวประมาณนึง แต่ถ้าทำข้นมันจะให้คนป๋วยอิ่มอยู่ท้อง แต่บางที่จะย่อยยากหน่อย (เนื้อสัตว์ แต่ละประมาณให้ความข้นเหนียวไม่เท่ากัน เนื้อหมู อาหารเหลวจะเป็นเม็ด ข้นแต่ไม่เหนียว ส่วนเนื้อไก่อาหารเหลวจะเม็ดๆ แต่เหนียวนิดหน่อย ส่วนเนื้อปลา อาหารเหลวจะเนียบ แต่จะข้น
5.เราไม่ต้องยึดติดกับเมนูมากเกินไป จะเยอะจะน้อยก็อยู่กับสภาพผู้ป๋วย แต่ยึดติดกับที่เขาให้เราใส่ มันมี่ข้าวเราต้องใส่ข้าวนะไม่ใช้นะ เราสามารถหาของมาแทนได้หมด ขึ้นอยู่กับอาการผู้ป๋วย